‘พีระพันธุ์’ เร่งแก้ปัญหาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนสิรินธร ยึดหลักความเป็นธรรม สางปมยืดเยื้อกว่า 50 ปี

                จากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานให้เป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนปากสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ชุดใหม่ นายพีระพันธุ์ได้เรียกประชุมคณะกรรมการเมื่อวานนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2567) ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยนายพีระพันธุ์ได้แต่งตั้งตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้วยจำนวน 12 คน ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่คาราคาซังยืดเยื้อยาวนานกว่า 50 ปี หลังจากการประชุมพบว่าปัจจุบันเหลือเพียงปัญหาเดียวคือรายละเอียดจำนวนประชาชนที่อยู่ในข่ายจะได้รับความช่วยเหลือที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 10,000 กว่าราย ซึ่งกรรมการบางท่านเห็นว่าควรกำหนดหลักเกณฑ์ก่อนว่าประชาชนที่จะเข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือต้องมีคุณสมบัติอย่างไรโดยให้ตั้งคณะอนุกรรมการไปดำเนินการ แต่กรรมการจากภาคประชาชนแย้งว่าเคยมีการกำหนดหลักเกณฑ์และตรวจสอบคุณสมบัติของประชาชนดังกล่าวเสร็จสิ้นไปแล้วประมาณ 8,970 ราย เหลืออยู่เพียงประมาณ 3,000 ราย ทั้งนี้ ได้เคยสรุปรายการและรายชื่อประชาชน 8,970 รายให้ รมว. พลังงานในรัฐบาลที่แล้วไปเรียบร้อยแล้ว หากจะมากำหนดหลักเกณฑ์ใหม่และตรวจสอบใหม่ทั้งหมดจะเกิดความล่าช้าและไม่เป็นธรรม
.
หลังจากที่ที่ประชุมหารือกันได้ระยะหนึ่ง นายพีระพันธุ์ได้กล่าวว่าตนประสงค์จะให้ประชาชนที่เดือดร้อนได้รับการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ซึ่งตนยังไม่เคยได้รับรายงานเรื่องจำนวนประชาชน 8,970 รายที่ผ่านการตรวจสอบแล้วมาก่อน หากเป็นจริงก็ควรใช้หลักเกณฑ์เดียวกันในการพิจารณาคุณสมบัติของประชาชน 3,000 รายที่เหลือ ไม่ใช่กำหนดหลักเกณฑ์ใหม่และพิจารณาใหม่อีก
.
ดังนั้น นายพีระพันธุ์จึงได้สั่งการให้ฝ่ายเลขาคณะกรรมการรายงานเรื่องประชาชนจำนวน 8,970 รายที่ผ่านการพิจารณาแล้วมาให้ตนและจะตั้งคณะอนุกรรมการมาตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะประชาชนจำนวน 3,000 รายที่เหลือโดยจะใช้หลักเกณฑ์เดิมเพื่อมิให้เกิดความล่าช้า โดยจะมอบให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเป็นประธานคณะอนุกรรมการและมอบหมายให้นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต ที่ปรึกษา รมว. พลังงาน เป็นผู้ประสานงานและติดตามเรื่องให้เกิดความรวดเร็ว ทำให้ตัวแทนภาคประชาชนมีความพอใจและกล่าวขอบคุณนายพีระพันธุ์ที่เข้าใจและจริงใจในการแก้ไขปัญหา โดยมั่นใจว่านายพีระพันธุ์จะสามารถแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อมากว่า 50 ปี ให้จบลงได้